1 วัน ของบุคลากรออฟฟิศอย่างพวกเราๆตับปฏิบัติภารกิจอะไรบ้าง ?

[Cindy700]

ชีวิตพนักงานที่ทำงาน มีผลต่อตับ เป็นคำถามที่ดูเหมือนจะตอบยากเนื่องจากว่าถ้าหาก ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่เจ็บเวลาใดก็ส่งสัญญาณเตือนทันที แม้กระนั้นสำหรับตับแล้วหากได้รับการรังแกตับก็จะสามารถซ่อมบำรุงตนเองแม้กระนั้นก็บางครั้งก็อาจจะไม่โชคดีเสมอไปพร้อมถ้าหากตับได้รับการทำลายอย่างหนักและตลอดก็ส่งผลให้ตับแข็งหรือเป็น โรคมะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตพนักงานสถานที่ทำงาน 1 วันอย่างเราๆนั้นสร้างภาระหน้าที่ให้ตับได้มากขนาดไหนมาดูกัน

อาหารมื้อเช้า ส่งผลต่อตับ 

มื้อรุ่งเช้าที่รีบเร่งของวัยรุ่นออฟฟิศส่วนมากกับการดื่มกาแฟเพียง 1 แก้วหรือจนถึงมิได้กินอะไรเลยทำให้ร่างกายมิได้รับสารอาหารที่ต้อง ซึ่งถ้าเกิดนับเวลาย้อนไปมื้อล่าสุดที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 12 ชั่วโมง แปลว่าตับคนที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานและสารอาหารไปยังส่วนต่างๆในร่างกายนั้นควรต้องดึงไกลวัวเจนที่เก็บสะสมไว้มาเปลี่ยนเป็นพลังงานในเวลาเช้าและร่างกายยังจำต้องชดเชยคาร์โบไฮเดรตที่ใช้เพื่อการกลายเป็นพลังอย่างเร็วจึงจะต้องรับประทานในมื้อต่อไปมากเพิ่มขึ้นอีกด้วยซ้ำซึ่งกลายเป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้ตับในการทำงานมากขึ้น

มลภาวะ สารพิษ ส่งผลต่อตับ

ช่วงเช้ายังจำต้องพบเจอมลพิษบนถนนในทุกวันด้วยชีวิตที่เร่งรีบของคนเมืองในตอนนี้ที่จำต้องเจอกับมลพิษต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ สารพิษกลุ่มนี้ เมื่อได้รับการสะสมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอาจมีผลพวงต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ผลวิจัยจากองค์กรอนามัยโลกระบุว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของคนเรานั้น ล้วนแล้วแต่มีมูลเหตุฐานรากเกี่ยวข้องจากการสัมผัสกับมลพิษที่สะสมเป็นระยะเวลานานทั้งมวลส่งผลต่อในร่างกายโดยเฉพาะตับที่เป็นศูนย์กลางรวมทั้งกรองสารพิษของร่างกาย

Fast Food ส่งผลต่อตับ

เพียงพอมื้อเที่ยงตรงต่างคนต่างรีบร้อนเพราะว่าโดยมากพนักงานออฟฟิศจะต้องรีบหามื้อกลางวันในขณะเดียวกันซึ่งมื้ออาหารที่เหมาะกับปัจจุบันนี้จำนวนมากก็จะเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้ในทันทีแต่ว่าอาจส่งผลร้ายในระยะยาวได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นตับ เพราะเหตุว่าส่วนมากอาหารจานด่วนนั้น ชอบมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน และก็โซเดียมสูงเกินสิ่งที่ต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดการสั่งสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งถ้าเกิดมีไขมันพอกมากๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากเข้า มีผลเสี่ยงต่อการเป็นโรคไขมันพอกตับ ส่งผลให้เกิดภาวะตับอักเสบ โรคตับแข็งแล้วก็ โรคมะเร็งตับ ในที่สุด

ความเครียด มีผลต่อตับ

ตกบ่ายมีเรื่องสะสมให้เกิดความเครียดอีกทั้งเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกนำมาซึ่งการทำให้ การทำร้ายตับจากความตึงเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนแล้วก็ฮอร์โมนในกรุ๊ปความเคร่งเครียด เช่น คอร์ติซอล ซึ่งส่งผลต่อการกระตุ้นเยื่อของเซลล์ต่างๆภายในร่างกายจนกระทั่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับรวมทั้งทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการปฏิบัติงานของภูมิต้านทานลดลดลงนำมาซึ่งการทำให้เกิดความเสียหายต่อตับได้ เปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาปองร้ายได้มากขึ้น นี่เป็นมูลเหตุว่าเพราะอะไรเราถึงล้มป่วยจากความตึงเครียดได้

แอลกอฮอล์ บุหรี่ ส่งผลต่อตับ

รวมทั้งก่อนกลับไปอยู่บ้านก็มีการคบหาสมาคม ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ สนทนากับเพื่อนฝูงสถานที่ทำงานอีกทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แม้กระนั้นหารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง เพราะเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบยาสูบ ทั้งพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์และการดมควันจากบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระปะปนรวมทั้ง สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนส่งผลให้เซลล์ตับเกิดการความเสียหาย และก็แอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ สูงถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม จึงไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีสภาวะอ้วนอ้วน!!!

นอนน้อย มีผลต่อตับ

และสุดท้ายกว่าจะได้นอนก็ยังนอนดึกดื่น พักผ่อนน้อย จำนวนมากแล้วหนุ่มสาวออฟฟิตทั้งหลายแหล่ก็ยังมิได้นอนนำมาซึ่งการทำให้ขั้นตอนการทำงานกำจัดสารพิษในตับปฏิบัติงานได้ไม่เต็มที่ส่งผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาอีกทั้งตับอักเสบได้ง่ายๆ ซึ่งตามแนวคิดแล้วช่วงเวลา ห้าทุ่มถึงหนึ่งนาฬิกา ตรงเวลาที่จะเกิดแนวทางการกำจัดพิษในตับ ซึ่งน่าจะจะต้องอยู่ในช่วงการนอนสนิท

จากความประพฤติปฏิบัติแค่เพียง หนึ่งวันเราก็สร้างภาระหน้าที่ให้ตับเรียกว่าทุกขณะเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระที่พวกเราเลี่ยงมิได้หรืออุตสาหะควบคุมแล้วหลังจากนั้นก็ทำเป็นยาก ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องที่จำเป็นต้องหันมาดูแลสุขภาพตับพวกเราให้มีสุขภาพที่ดี ก่อนจะไม่เหลือตับให้ดูแล