• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสต์ฟรี โปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

&&มาดูกันว่าเทรนด์ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรเป็นยังไง

Started by www.SeoNo1.co.th, November 03, 2024, 07:57:11 AM

Previous topic - Next topic

www.SeoNo1.co.th

ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า แบบครบวงจรเป็นอย่างไรกับอัปเดตเกี่ยวกับอนาคตของแบตเตอรี่อีวีที่พวกเราควรให้ความสนใจ



สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ >> รถยนต์ไฟฟ้า https://www.bangkokbanksme.com/en/23-9sme1-ev-car-business-trends-updated-ev-batteries

เดี๋ยวนี้ เราจะมองเห็นรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นจากนานาประการแบรนด์วิ่งสัญจรบนถนนมากขึ้นซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากแนวนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล หรือที่เรียกว่า '30@30' ที่มีเป้าหมายให้รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วน 30% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั้งสิ้นภายในปี 2573

แผนการนี้สอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของเมืองไทย ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าสเรือนกระจกเพื่อขจัดปัญหาสภาวะโลกร้อน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงยอดเยี่ยมในทางออกสำคัญ เพราะเหตุว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่ปลดปล่อยไอเสีย ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น แล้วก็ยังช่วยลดการพึ่งพิงเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย

ยิ่งกว่านั้น การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังทำให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง อย่างเช่น การสร้างแบตเตอรี่รวมทั้งสถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยสร้างงานรวมทั้งเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง"

สรุปเคลื่อนไหวตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย: โอกาสและก็ความท้าทาย
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างเร็ว ด้วยแนวนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล รวมทั้งความพอใจของลูกค้าที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเยอะขึ้น มองเห็นได้จากยอดจดทะเบียนที่มากขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และราคาที่ถูกลง

ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาด:

- แนวทางผลักดัน: รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริม ดังเช่น การผ่อนปรนภาษี ทำให้ราคาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง

- ความมากมายหลากหลายของรุ่นรถ: มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกมากยิ่งขึ้น ทั้งยังจากแบรนด์ดังระดับโลกและก็แบรนด์จีนที่เข้ามาแข่ง

- ราคาที่เข้าถึงได้: ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าลดน้อยลงโดยตลอด ทำให้ลูกค้าทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้

- โครงสร้างพื้นฐาน: จำนวนสถานีชาร์จมากขึ้น ทำให้คนซื้อลดความรู้สึกหนักใจเรื่องระยะทางสำหรับในการขับขี่


ความท้าทาย

- การประลองสูง: มีผู้สร้างรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่การประลองด้านราคาแล้วก็เทคโนโลยี

- มาตรการเกื้อหนุน: ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการยืดอายุมาตรการส่งเสริมของรัฐบาล

- องค์ประกอบเบื้องต้น: แม้จะมีการพัฒนาสถานีชาร์จ แต่ว่ายังจำต้องขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

ช่องทาง:

- ตลาดยังมีศักยภาพเติบโต: ด้วยจำนวนประชาชนแล้วก็การขยายตัวของเศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

- นวัตกรรม: มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่เป็นประจำ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีสมรรถนะแล้วก็เทคโนโลยีที่น่าสนใจเยอะขึ้น

- ความยืนยง: การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลภาวะรวมทั้งเป็นไปตามเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ

สรุป: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังอยู่ในช่วงแปลงผ่านที่น่าดึงดูด ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น แล้วก็เทคโนโลยีก็ปรับปรุงไปอย่างรวดเร็ว แต่ ยังคงมีความท้าบางประการที่จะต้องปรับแก้ เพื่อให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

สิ่งที่น่าเฝ้ามองในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

- แผนการของรัฐบาล: การยืดอายุมาตรการเกื้อหนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

- การแข่งขันของผู้ผลิตรายใหญ่: การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ๆรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงราคา

- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: การขยายปริมาณสถานีชาร์จและก็การพัฒนาระบบชาร์จที่ล้ำยุค

ข้อเสนอแนะสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

- ผู้ใช้: ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างรุ่นต่างๆก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ รวมทั้งพิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้งาน

- ผู้ประกอบการ: ควรปรับนิสัยให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด และมองหาช่องทางสำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดนี้คือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีคุณภาพสูงมากขึ้น ราคาถูกลง และตอบโจทย์ความต้องการของคนซื้อได้มากขึ้น

แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน: ราชาที่ตลาดแบตเตอรี่ในปัจจุบัน

- ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด: แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนยังคงได้รับความนิยมสูงที่สุดในตลาด เหตุเพราะมีคุณภาพสูง แก่การใช้แรงงานยาวนาน แล้วก็ราคาแพงที่ลดลง

- ผู้ผลิตจากจีนครอบครองตลาด: บริษัทจีนหลายแห่ง ดังเช่น CATL และ BYD เป็นหัวหน้าในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน และก็มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก

ความท้าและก็โอกาสของแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน

- ราคาของลิเทียม: ราคาของลิเทียมมีความผันแปรสูง ทำให้ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่มากขึ้น

- การแข่งขันชิงชัยสูง: มีผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาและเทคโนโลยี

แนวโน้มเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอนาคต

- แบตเตอรี่โซลิดสเตต: เป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตาดู เหตุเพราะมีความปลอดภัยสูง มีความหนาแน่นของพลังงานสูง แล้วก็มีอายุการใช้แรงงานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน

- แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน: เป็นอีกหนึ่งลู่ทางที่น่าดึงดูด เพราะว่าวัตถุดิบราคาไม่แพง รวมทั้งมีขั้นตอนการผลิตที่ง่ายยิ่งกว่า

- นิกเกิล เมทัลไฮไดร์ด: แม้ว่าจะมีการใช้งานมานานแล้ว แต่ยังคงได้รับความพึงพอใจ เนื่องจากแก่การใช้แรงงานนาน และก็ทนต่อสภาพอากาศได้ดี

สิ่งที่น่าสังเกต:

- การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใหม่ๆ

- การแข่งขันระหว่างผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่

- แนวทางเกื้อหนุนของรัฐบาล

- ราคาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่




ข้อเสนอ:

- คนซื้อ: ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ละเอียดก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจซื้อ

- ผู้ประกอบการ: ควรจะติดตามเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิด แล้วก็ปรับปรุงของใหม่ใหม่ๆเพื่อเพิ่มสมรรถภาพสำหรับเพื่อการชิงชัย

ตามรายงานปัจจุบันจาก SNE Research พบว่าผู้ผลิตแบตเตอรี่จากจีนมีถึง 6 บริษัทที่ติดอันดับ Top 10 ของโลก โดยรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 60.5% ในปี 2565

บริษัทที่ดำรงตำแหน่งชั้น 1เป็นContemporary Amperex Technology (CATL) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 CATL ได้ติดตั้งเซลล์แบตเตอรี่ไปถึง 165.7 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ซึ่งมากขึ้นถึง 101.8% จากปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทนี้เพิ่มจาก 32.8% ในปี 2564 เป็น 37.1% ในปี 2565

อันดับที่ 2เป็นBYD ผู

มาดูกันว่าเทรนด์ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรเป็นยังไง พร้อมด้วยอัปเดตเกี่ยวกับอนาคตของแบตเตอรี่อีวีที่พวกเราควรมีความสนใจ!


"ตอนนี้ พวกเราจะมองเห็นรถยนต์ไฟฟ้านานาประการรุ่นจากมากมายแบรนด์วิ่งสัญจรบนท้องถนนเยอะขึ้นซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล หรือที่เรียกว่า '30@30' ที่มีเป้าหมายให้รถยนต์ไฟฟ้ามีรูปร่าง 30% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั้งผองภายในปี 2573

หลักการนี้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ความเป็นกลางทางคาร์บอนของเมืองไทย ที่มุ่งลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกเพื่อแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็เลยเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญ เนื่องมาจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่ปล่อยไอเสีย ทำให้ท่านภาพอากาศดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดการพึ่งเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านี้ การเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวโยง เป็นต้นว่า การผลิตแบตเตอรี่รวมทั้งสถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยสร้างงานรวมทั้งขับเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง"

จับใจความเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย: ช่องทางแล้วก็ความท้าทาย
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยแนวทางส่งเสริมจากรัฐบาล แล้วก็ความสนใจของผู้บริโภคที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ มองเห็นได้จากยอดจดทะเบียนที่มากขึ้นโดยตลอด และราคาที่ถูกลง

ปัจจัยหลักที่ขับตลาด:

- แนวทางเกื้อหนุน: รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุน ยกตัวอย่างเช่น การผ่อนผันภาษี ทำให้ราคาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง

- ความมากมายหลายของรุ่นรถ: มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกมากยิ่งขึ้น ทั้งยังจากแบรนด์ดังระดับโลกรวมทั้งแบรนด์จีนที่เข้ามาชิงชัย

- ราคาที่เข้าถึงได้: ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้

- ส่วนประกอบเบื้องต้น: ปริมาณสถานีชาร์จมากขึ้น ทำให้ลูกค้าลดความรู้สึกกังวลเรื่องระยะทางสำหรับการขับขี่

ความท้าทาย:

- การประลองสูง: มีผู้สร้างรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาดมากขึ้น นำมาซึ่งการประลองด้านราคาและก็เทคโนโลยี

- มาตรการส่งเสริม: ยังมีความไม่เที่ยงเกี่ยวกับการต่ออายุมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล

- โครงสร้างพื้นฐาน: แม้ว่าจะมีการพัฒนาสถานีชาร์จ แต่ว่ายังจำเป็นต้องขยายให้ครอบคลุมทั่วราชอาณาจักร

โอกาส:

- ตลาดยังมีประสิทธิภาพเติบโต: ด้วยจำนวนประชากรแล้วก็การขยายตัวของเศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังได้โอกาสเติบโตอีกมาก

- นวัตกรรม: มีการปรับปรุงสิ่งใหม่ใหม่ๆเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่เป็นประจำ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีสมรรถนะแล้วก็เทคโนโลยีที่น่าสนใจมากขึ้น

- ความยั่งยืน: การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลภาวะและก็เป็นไปตามจุดหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ

สรุป: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่น่าดึงดูด ผู้ซื้อมีทางเลือกมากเพิ่มขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยีก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ยังคงมีความท้าทายบางประการที่จะต้องปรับปรุง เพื่อให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

สิ่งที่น่าจับตาดูในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

- แผนการของรัฐบาล: การต่ออายุมาตรการผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

- การประลองของผู้สร้างรายใหญ่: การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆและการปรับราคา

- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: การขยายจำนวนสถานีชาร์จรวมทั้งการพัฒนาระบบชาร์จที่ทันสมัย

ข้อแนะนำสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

- ผู้ใช้: ควรศึกษาข้อมูลเทียบระหว่างรุ่นต่างๆก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ และพิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้แรงงาน

- ผู้ประกอบกิจการ: ควรปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด แล้วก็มองหาช่องทางสำหรับในการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างเร็ว หนึ่งในปัจจัยหลักที่เคลื่อนตลาดนี้คือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีคุณภาพสูงมากขึ้น ราคาถูกลง รวมทั้งตอบสนองในสิ่งที่ต้องการของคนซื้อได้มากขึ้น

แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน: ราชาแห่งตลาดแบตเตอรี่ในตอนนี้

- ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด: แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุดในตลาด ด้วยเหตุว่ามีประสิทธิภาพสูง แก่การใช้งานนาน แล้วก็ราคาแพงที่น้อยลง

- ผู้สร้างจากจีนครองตลาด: บริษัทจีนหลายแห่ง เช่น CATL และก็ BYD เป็นหัวหน้าสำหรับในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน และมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก

ความท้าและโอกาสของแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน

- ราคาของลิเทียม: ราคาของลิเทียมมีความปั่นป่วนสูง ทำให้ทุนการสร้างแบตเตอรี่มากขึ้น

- การแข่งขันชิงชัยสูง: มีผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหม่ไปสู่ตลาดมากขึ้น กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันชิงชัยด้านราคาและเทคโนโลยี

แนวโน้มเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอนาคต

- แบตเตอรี่โซลิดสเตต: เป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตา เนื่องมาจากมีความปลอดภัยสูง มีความหนาแน่นของพลังงานสูง รวมทั้งแก่การใช้แรงงานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน

- แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน: เป็นอีกหนึ่งลู่ทางที่น่าสนใจ ด้วยเหตุว่าวัตถุดิบราคาถูก แล้วก็มีแนวทางการผลิตที่ง่ายกว่า

- นิกเกิล เมทัลไฮไดร์ด: แม้จะมีการใช้งานมานานแล้ว แต่ยังคงได้รับความพอใจ เพราะแก่การใช้งานยาวนาน และก็ทนต่อลักษณะอากาศก้าวหน้า

สิ่งที่น่าจับตา:

- การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ๆ

- การประลองระหว่างผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่

- แผนการส่งเสริมของรัฐบาล

- ราคาของวัตถุดิบที่ใช้เพื่อสำหรับในการผลิตแบตเตอรี่

คำแนะนำ:

- คนซื้อ: ควรศึกษาค้นคว้าเนื้อหาสาระเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวังก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจซื้อ

- ผู้ประกอบธุรกิจ: ควรติดตามเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิด และปรับปรุงของใหม่ใหม่ๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถสำหรับการแข่ง

ตามรายงานล่าสุดจาก SNE Research พบว่าผู้สร้างแบตเตอรี่จากจีนมีถึง 6 บริษัทที่ติดอันดับ Top 10 ของโลก โดยรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 60.5% ในปี 2565

บริษัทที่ได้รับตำแหน่งอันดับ 1 คือ Contemporary Amperex Technology (CATL) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 CATL ได้ติดตั้งเซลล์แบตเตอรี่ไปถึง 165.7 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ซึ่งมากขึ้นถึง 101.8% จากปีที่แล้ว ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทนี้เพิ่มจาก 32.8% ในปี 2564 เป็น 37.1% ในปี 2565

ชั้นที่ 2 คือ BYD ผู้สร้างรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ มีจำนวนการติดตั้งเพิ่มขึ้น 168.3% คิดเป็น 60.6 GWh และก็ส่วนแบ่งตลาดโลกอยู่ที่ 13.6% เพิ่ม



Source: บทความ รถยนต์ไฟฟ้า https://www.bangkokbanksme.com/en/23-9sme1-ev-car-business-trends-updated-ev-batteries