• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้รู้ จากการเป็นผู้รับจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by luktan1479, April 05, 2023, 03:04:17 PM

Previous topic - Next topic

luktan1479

1. เพราะว่าพวกเราไม่ได้เกิดมาเพื่อดำเนินงานอย่ างเดียว

พวกเราไม่ได้ทำงานแล้วแฮปปี้วันแล้ววันเล่า บ่อยที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แม้กระนั้นถ้าหากพวกเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต อาทิเช่น วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ หรือแม้กระทั่งต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่เราชอบจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น และ เพิ่มความมั่นใจและความเชื่อมั่น เนื่องจากการเฟลจากที่ปฏิบัติงานโดยมากมักทำให้พวกเราท้อแท้ใจ และขาดความเชื่อมั่นในตนเองในตนเอง ส่วนตัวเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน และก็ อีกเพียบเลย


ยกตัวอย่ าง... มีเพื่อนพ้องคนนึงชอบตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย เอาจริงเอาจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ ขณะนี้ทำงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จนกระทั่งบัดนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากยิ่งกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. ทราบยัง

สำหรับพนักงานประจำตัวจ้อยอย่ างเรา สิ่งที่พวกเราเคารพที่สุดในสถานที่ทำงานก็คงจะหนีไม่พ้นนายจ้าง คนที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยนาๆประการ อย่ างตัวเราเคยเจอทั้งที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานมาก ไปจนกระทั่งวันๆไม่ทำการทำงาน รอสั่งคนนู่นคราวคนนี้คราว แม้กระนั้นพอใช้ได้มองดูดีๆพวกเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แต่คนๆนี้มันจะมาบ่นว่าขี้เกียจคร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานเยอะไม่ได้ไง ทำไมน่ะเหรอ นอกเหนือจากการที่จะโดนหัวหน้าของเค้าเองเกลียดแล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความยำเกรงด้วย หนำซ้ำบางทีอาจจะระรานกันเสียระบอบการปกครองทั้งทีม


ถ้าหากให้แนะนำก็อย ากจะกล่าวว่าพย าย ามรู้เรื่องเค้าดียิ่งกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนชั่วบ้ า ง นิสัยก็ไม่เหมือนกันบ้ า งเป็นเรื่องปกติ อย่ าคิดว่าเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้มองในมุมที่ว่าหากเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานที่แห่งไหนไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปเจอครอบครัว

มิได้อย ากอยู่ดึกดื่นๆให้ผู้ที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็ไม่ได้อย ากดำเนินการ ก็อย ากท่องเที่ยวเหมือนกันนั่นแหละ แต่แค่ออกหน้าพูดมากแบบพวกเราไม่ได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองนึกดู

เพียงแค่เราพรีเซนเทชั่นงานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจะต้องเอางานพวกเราไปนำเสนอกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องใครที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้เยอะ เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นธรรมดา

3. อย่ ามั่นใจในตัวเองเกินไปในโลกอินเตอร์เน็ต

หลายท่านมั่นใจว่าโลกโซเชียลเป็นหลักที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของเรา แต่รู้รึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนี้นอกเหนือจากการที่จะมอง resume พวกเราแล้ว ยังมองเ ฟ ส บุ ค ของพวกเราด้วย เพื่อนพ้องพวกเราที่เป็น HR การันตีมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า มองเห็นไหมว่าตัวตนบนโลกออนไลน์

ของพวกเรานั้นมีผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อเราเป็นพนักงานประจำสุดกำลัง เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระวัง อย่ างเราเป็นไม่สัมผัสเฟสบุ้คเลย หรือหากจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าหากหัวหน้ามาเห็นก็ช่างเถอะ


ถ้าหากอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆแนะนำให้แยกเฟสสถานที่ทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาธารที่พด้วย เพราะเหตุว่า ส่วนมากคนภายในที่ทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในที่ทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลาเบาปัญญา ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่นอน...!! เตือนแล้วนะ

4. โฟกัสที่ลู่วิ่งของเรา สนใจ ตั้งใจ แม้กระนั้น... อย่ าเก็บลู่วิ่งบุคคลอื่นมาอิจฉาริษยา

ช่วงปีให้หลังมานี้ เพื่อนฝูงพวกเราคนจำนวนไม่น้อยเริ่มศึกษาต่อ สร้างครอบครัว บางคนเปลี่ยนแปลงงานไปงานที่ค่าตอบแทนรายเดือนสูงสุดๆบางคนเริ่มธุรกิจของตน บางครั้งพวกเราเลื่อนดูหน้าเฟสและจากนั้นก็แอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้ได้ดิบได้ดี แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แต่ว่าบอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็ไม่ได้ดีกว่าพวกเราหรอกดีไม่ดีเพื่อนผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางครั้งก็อาจจะกำลังอิจฉาริษยาชีวิตเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกพวกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... คือตัวเราเองก็ไม่ได้คิดเลยว่าชีวิตพวกเราดี สิ่งที่เราคัดเลือกกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี จงจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของพวกเราไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น

โฟกัสที่ลู่วิ่งของเรา ทราบว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร ทราบดีว่าจุดหมายปลายทางพวกเราต้องการอะไร ทราบว่าวันนี้เราทำดีกว่าเมื่อวานนี้แล้วหรือยัง ก็พอเพียงแล้ว แอบมองลู่วิ่งคนอื่นๆบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้พวกเราจริงจังกับชีวิตเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่ าเก็บมาใส่ใจจนกระทั่งเป็นทุกข์เป็นร้อนพอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

ประเดี๋ยวก่อน...!! อย่ าพึ่งจะสะดุ้งไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนมิได้มีความหมายว่า ให้เราไม่ต้องจิรงจิตใจกับคนไหน แม้กระนั้น... หมายความว่า " เราไม่สนใจฝ่ายใด " อย่ างที่รู้กันว่าในสำนักงานหลายๆที่

มีการเล่นพวก หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าผู้ที่เล่นการเมือง (มากมายๆ) ส่วนใหญ่ปราศจากความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแม้กระนั้นเล่นเค้าไว้มากนี่ห้ามเพลี่ยงพล้ำเลยนะ มีคนรอคอยซ้ำมากเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่เป็น... การที่เราดูว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร มิได้กล่าวว่าให้สตอเบอร์รี่ หรือ ฝ่าฝืนตัวเอง แต่ว่า... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชื่นชอบ

โตมาในสังคมที่แตกต่างกัน การที่เราดูแล้วรู้ว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะมีผลให้พวกเราเหนือกว่ามากๆเว้นเสียแต่วางตัวง่ายแล้ว พวกเราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมถึงบางบุคคลที่ดูแล้วผิดจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักสวัสดีตามมารย าท ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่เคยรู้หรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปทำงานกับคนไหนกัน ด้วยเหตุดังกล่าว อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แต่ว่าในอนาคต บางทีอาจได้โครจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนดุด่าตอนอายุ 50

เนื่องจากว่าอายุยังน้อย ความคาดหมายจากคนที่อยู่รอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย แม้พวกเราจะรู้สึกบีบคั้นสำหรับในการดำเนินงานสุดๆแต่ว่าเชื่อเถอะ พวกเราล้มเหลววันนี้ ดีมากกว่าพวกเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนถึง 50-60 ก็ผ่านช่วงเวลาแบบเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะชี้แนะคือ.. ใช้เวลานี้ให้คุ้ม พวกเรามิได้อายุ 20 กว่าๆตลอดกาล อย ากทำอะไรทำ อย าคำกล่าวมอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันห่วยแตกก็พรีเซ้นไปเรื่อยๆฝึกหัดไปเรื่อยๆโดนดุด่าปัจจุบันนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนดุด่าตอนอายุ 50 เยอะแยะ หากแม้จะบกพร่อง ด้วยความยังเด็ก และก็ อ่อนประสบการณ์ คนโดยมากพร้อมจะยกโทษเราเสมอ โดยเหตุนี้ ล้มเหลวไม่น้อยเลยทีเดียวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามไม่เหมือนกันระหว่าง " เพื่อน " กับ " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " คืออะไร ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนฝูงย ากก็น่าจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนใหม่ไม่ย ากเท่าสมัยมัธยม รวมทั้งการหาสหายในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งเราโตขึ้นเท่าไหร่ เราจะหาเพื่อนย ากขึ้นเพียงแค่นั้น และไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนฝูงที่จริงจิตใจคนนึงในที่ทำงานมันย ากเพียงใด


นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง เงินเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของคนเราเงินเดือนอย่ างเราคือไปทำงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสัมพันธ์หาสหาย ด้วยเหตุนั้นวันๆเราจึงจะพบเพียงแค่สหายร่วมกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่และจากนั้นก็เป็นการคุยกันแค่เรื่องงานเพียงแค่นั้น

พวกเราโชคดีที่พบกลุ่มที่ดี คุยได้อีกทั้งเรื่องส่วนบุคคลและก็เรื่องงาน พูดได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และก็สหายร่วมงานในครั้งเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจอย่างนี้ พวกเรามีความคิดว่ามันเป็นกำไรชีวิต พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดเดียวก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้พบเจอ

คุยแลกเปลี่ยนความเซ็งก็ดีแล้ว ให้เราทดลองถามตนเองว่า "หากเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" ถ้าเกิดคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณพบเพื่อนพ้องจริงๆในที่ทำงานแล้ว

7. หาผู้ที่เป็นมากกว่า " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " ให้เจอ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ความต่างระหว่าง " เพื่อนพ้อง " กับ " เพื่อนร่วมงาน " เป็นอย่างไร ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนฝูงย ากก็คงจะจริง สมัยประถม การหาเพื่อนพ้องใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม และการหาเพื่อนพ้องในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแสดงว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าใด พวกเราจะหาเพื่อนย ากขึ้นแค่นั้น

และไม่จำต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนที่จริงหัวใจคนนึงในสำนักงานมันย ากมากแค่ไหน นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนค่าจ้างรายเดือนอย่ างพวกเราเป็นไปดำเนินการ ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานชมรมหาเพื่อนพ้อง ฉะนั้นวันๆพวกเราจึงจะเจอแค่สหายร่วมทีม ซึ่งส่วนใหญ่และก็เป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น

พวกเราโชคดีที่พบทีมที่ดี คุยได้อีกทั้งเรื่องส่วนบุคคลและเรื่องงาน กล่าวได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และก็สหายร่วมงานในครั้งเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้ววางใจอย่างนี้ พวกเรารู้สึกว่ามันคือผลกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนพวกนี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดเดียวก็ยังดี ) ไม่จำเป็นต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้พบเห็น เสวนาเปลี่ยนความเซ็งก็ดี ให้พวกเราลองถามตัวเองว่า "ถ้าหากเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" ถ้าเกิดคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณพบสหายจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้ว

8. ควรเป็น " ลูกจ้างมือโปร "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย ถ้าเกิดอย ากบรรลุเป้าหมาย รวมทั้ง แฮปปี้ จงเป็น " ลูกจ้างมืออาชีพ " ให้ได้ บอกง่ายแม้กระนั้นทำย ากนะ ด้วยเหตุว่าผู้รับจ้างมืออาชีพก็คือผู้ที่ตระหนักได้ว่า " พวกเราถูกจ้างมาด้วยเงินเดือนจำนวนหนึ่ง " ซึ่งก็ถือได้ว่าบริษัทเค้าอยากได้อะไรบางอย่ างจากเราแลกกับค่าแรงนั้นๆ

เราจะต้องทราบว่าบริษัทว่าจ้างเรามาทำอะไร แล้วก็ ทำมันให้ดีกว่าที่บริษัทคาดหวังถ้าเกิดอยากได้ความเจริญในหน้าที่ หากงานที่ทำอยู่คิดว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของพวกเรา ก็ไม่สมควรทรหดอดทนทำไป


น่าจะหางานที่เราทำแล้วเราสุขสบายแล้วก็ทำได้ดีเพื่อดึงความสามารถของตนออกมาให้มากที่สุด นอกเหนือจากการที่จะทำให้พวกเราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังมีผลให้เราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเราจะรู้เองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ถูกใจให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าผู้อื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ หากท้ายที่สุดเราพบสายอาชีพที่พวกเรารักและก็อย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากมาย

แล้วก็ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " พวกเราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง " อย่ าทำงานหนักเกินกว่าค่าจ้างจนเหลือเกิน ทุ่มเทได้ แม้กระนั้นต้องมีผลที่ดีตามออกมาด้วย ได้แก่ได้ปรับค่าตอบแทนรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับบิดามารดา เครือญาติๆบ้ า ง หันกลับไปดูข้างหลังบ้ า งว่าผู้ที่เป็นบันไดให้พวกเรามายืนจุดนี้ ในขณะนี้เค้าคืออะไรกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าบิดามารดาอายุมากขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าเกิดเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้แด่คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ทุกข์ยากลำบากหรอก แลกกับความสุขของบิดามารดา
ลูกจ้าง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/