
เพื่อตรวจเช็คหลักการทำงานของบุคลากร รวมถึงความรู้สึกนึกคิด
ซึ่งไม่ได้วัดออกมาเป็นระดับคะแนน หรือความชอบใจ จากการตอบปัญหา "ถูก" หรือ "ผิด" ที่สำคัญ
สิ่งที่ได้บอกออกไปในระหว่างการประเมินบางทีอาจจะประดิษฐ์ หรือ ทำ ล า ย หน้าที่การงานได้เลยทีเดียว
แต่ว่าบางบริษัทคิดว่าการวัดผลงานที่จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปีเกิดเรื่องโบราณ
เพราะเหตุว่านายจ้างควรประเมินเรื่องอื่นๆอีกทั้งสมรรถนะสำหรับเพื่อการทำงาน
การบริการลูกค้า ทีมเวิร์ก ไปจนกระทั่งทัศนคติ ทำให้มากมายหลากหลายองค์กรใช้ระบบการให้คำปรึกษาย้อนกลับมา
หรือฟีดแบ็กรวมถึงระบบการสอนงาน หรือผู้ฝึกสอนชิ่งแทน แต่ไม่ว่าองค์กรจะใช้การประเมินแบบใด
สิ่งจำเป็นเป็นบุคลากรจำเป็นต้องสามารถสื่อ ส า ร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และมี 5 ประโยคที่ไม่สมควรเอ่ยออกมา เนื่องจากว่าสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดผลลบมากกว่า
ซึ่ง cheatsheet.com เขียนถึงหัวข้อนี้ไว้อย่างน่าดึงดูด
"นี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน"
ประโยคนี้นอกเหนือจากการที่จะแสดงให้เห็นว่า ผู้พูดต้องเปลี่ยนแปลงมารยาทไม่ให้พูดโพล่งออกมาแล้ว
ควรจะจดจำไว้เหตุว่า การกำหนดหน้าที่งาน หรือ Job Description
ไม่ได้ครอบคลุมหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำทั้งหมดทั้งปวง 100% แถมยังจะต้องเปลี่ยนแปลงตามภาวะธุรกิจอีกด้วย
เจ้านายชอบพอพนักงานที่มีความยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับงานหลายๆอย่าง
ด้วยทัศนคติเชิงบวก แต่ถ้าอยากได้สะท้อนถึงสิ่งที่มีความต้องการที่มากเกินความจำเป็นของผู้ว่าจ้าง
ก็สามารถเลือกใช้ประโยคอื่นๆแทน ตัวอย่างเช่น "งานเดิมที่ระบุเส้น ต า ย เอาไว้
ทำให้ยังไม่มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่เสริมเติม" หรืออธิบายว่า
คุณไม่ควรรับผิดชอบงานส่วนนี้ เพราะว่ามีบุคคลอื่นที่เหมาะอย่างยิ่งกว่า
"คุณคาดหวังจากฉันเยอะเกินไป"
แน่ๆว่า เจ้านายย่อมคาดหมายหลายเรื่อง
ซึ่งอาจจะเป็นผลให้บุคลากรมีความคิดว่าดำเนินการเกินค่าตอบแทนที่ได้รับ
แม้กระนั้นการคุ้มครองป้องกันตนเองมากเกินไปก็บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่แนวทางที่ยอดเยี่ยมที่สุด
เพราะฉะนั้น การเลิกทนและคุมอารมณ์เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอะไร
เพราะว่าการแสดงอารมณ์ออกมาบางทีอาจไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
"ฉันทำไม่ได้"
การพูดว่า "ทำไม่ได้" เป็นความจำกัด ซึ่งเว้นเสียแต่ผู้พูดจะจำกัดความคิดของตน
เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเราเองสามารถทำได้แล้ว ยังจำกัดความคิดของคนอื่นๆ
รวมถึงเจ้านายเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจของผู้พูดด้วย
การพูดประโยคนี้พอๆกับบอกผู้ว่าจ้างว่า คุณไม่มีทักษะที่จะปฏิบัติงานให้เสร็จได้
แล้วก็หากตอบห้วนๆก็อาจแปลได้ว่า คุณไม่บากบั่นจะทำความเข้าใจ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียเข้าไปอีก
ด้วยเหตุดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องเลี่ยงไปใช้คำพูดอื่นๆได้แก่ "เราจะทดลองทำยังไงดี"
หรือ "นี่เป็นคำแนะนำที่ดี เปิดโอกาสฉันได้มีส่วนร่วมที่จะทำให้สำเร็จด้วยคน"
ซึ่งจะเปิดทางให้สามารถหาแผนที่เหมาะสมกับตนเองได้
"ขอบคุณที่สังเกตเห็นท้ายที่สุด"
การได้รับคำชื่นชมสำหรับเพื่อการประมวลผลงานนับเป็นความสำเร็จในหน้าที่การงานขั้นเล็กๆ
แต่ก็ไม่ควรหลงระเริงกับคำชมนั้น หากไม่สามารถต่อกรเจริญพอ ดังเช่น การกล่าวคำจำพวกว่า
"ขอบพระคุณที่มองเห็นท้ายที่สุด" จะมีผลให้บรรยากาศกลับอึดอัด
และอาจก่อให้เจ้านายไม่ชื่นชอบคุณอีกในอนาคต แค่ขอบคุณมาก
หรือชี้แจงถึงความพากเพียรที่เป็นเวลานานกว่าจะเสร็จก็คงจะพอเพียงแล้ว
"ไม่ได้ขี้เกียจนะ ก็แค่ไม่แคร์เพียงเท่านั้น"
นี่เป็นประโยคเด็ดจากภาพยนตร์เรื่อง "ออฟฟิศ สเปซ" แต่ถ้าผู้ว่าจ้างไม่ได้รู้จัก
เหตุการณ์ข้างหลังกล่าวประโยคนี้ก็จะเชิญชวนอึดอัด โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อนายมองหน้าเพื่อ
ให้ชี้แจงถึงคำพูดดังที่ได้กล่าวมาแล้วที่แสดงถึงความรู้สึกไม่ชอบใจ
ทราบเทคนิค 5 ประโยคที่ห้ามพูดแล้ว ก็ทุ่มเทดำเนินงานให้เต็มกำลัง
เวลาประเมินผลงานจะได้เปิดใจกับหัวหน้ากันแบบเพลิดเพลินใจ
เผื่อได้ปรับเงินเดือนให้สูงขึ้น แถมด้วยตำแหน่งใหม่ๆก็ได้ ผู้ใดกันแน่จะไปรู้!
พนักงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13385/
คำค้นหา : นิสัย